วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อัลมอนด์..องครักษ์พิทักษ์หัวใจ


อัลมอนด์..องครักษ์พิทักษ์หัวใจ
ชื่อของถั่วอัลมอนด์ถือว่าเป็นชื่อคุ้นเคยและคุ้นลิ้นของคนไทย แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศก็ตาม แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเจ้าถั่วเมล็กเล็ก ๆ นี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลากหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหัวใจของเรา จนถูกยกย่องให้เป็นองครักษ์พิทักษ์หัวใจเลยทีเดียวอัลมอนด์เป็นถั่วประเภท Tree Nut ซึ่งให้คุณค่าสารอาหารต่อร่างกายมากกว่าถั่วประเภทคุมดิน อย่างถั่วลิสง ถั่วเขียว ฯลฯ และอัลมอนด์ยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะคุณประโยชน์ของอัลมอนด์มีมากมาย ในเมล็ดอัลมอนด์อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acid) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fatty Acid) ซึ่งช่วยเพิ่มระดับ HDL (High-Density Lipoproteins) หรือไขมันดี และช่วยลดระดับ LDL (Low-Density Lipoproteins) หรือไขมันเลว
ทั้ง HDL และ LDL จะเป็นตัวพาคอเลสเตอรอลเคลื่อนที่ไปตามกระแสเลือด หากร่างกายมี LDL หรือไขมันเลวในปริมาณมาก คอเลสเตอรอลจะเคลื่อนที่ลำบากและจะสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือด ตามเส้นเลือกที่ส่งไปเลี้ยงหัวใจและสมอง และถ้าคอเลสเตอรอลที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือดไปรวมตัวกับสารอื่น อาจเกิดเป็นลิ่มไขมันทำให้หลอดเลือดตีบตันขัดขวางการไหลเวียนของกระแสเลือด หารเส้นเลือดตีบตันที่หัวใจ อาจทำให้เกิดโรคหัวใจ และหากเส้นเลือดตีบตันที่สมอง อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ แต่ถ้าร่างกายเรามีไขมันดี หรือ HDL มากว่า ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เพราะ HDL จะช่วยให้คอเลสเตอรอลเคลื่อนที่ได้ดี และทำให้คอเลสเตอรอลหลุดออกจากผนังหลอดเลือด และส่งไปยังตับเพื่อกำจัดออกจากร่างกาย
ในต่างประเทศมีการวิจัยถึงประโยชน์ของอัลมอนด์อย่างจริงจังกันมานานแล้ว ซึ่งผลการวิจัยจากหลากหลายสถาบันให้ผลตรงกันว่าอัลมอนด์มีบทบาทกับสุขภาพหัวใจอย่างการ เพราะมีส่วนประกอบสำคัญอย่างกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน เมื่อรับประทานเป็นประจำจึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี
ผลการวิจัยจากสถาบันชั้นนำทั้งในยุโรปและอเมริกายังพบว่า ถ้ารับประทานอัลมอนด์เพียงวันละ 1 หยิงมือ ช่วยลด LDL ได้ถึง 4.4% และถ้ารับประทาน 2 หยิงมือต่อวัน ช่วยลด LDL ได้ถึง 9.4% รวมไปถึงผลวิจัยจาก Nation Cholesterol Education Program ก็รายงานผลออกมาในรูปแบบเดียวกัน โดยให้กลุ่มตัวอย่างรับประทานอาหารที่มีและไม่มีอัลมอนด์ประกอบอยู่ พบว่าในกลุ่มที่มีการบริโภคอัลมอนด์มากขึ้นระดับ LDL ก็จะลดลง และระดับ HDL ก็เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายแล้วอัลมอนด์ยังอุดมไปด้วยไปเบอร์ โปรตีนจากพืชวิตามินบี วิตามินอี และเมก้าทรี ซึ่งจำเป็นสำหรับการเสริมสร้างเซลล์ที่สึกหรอของผิวหนังเส้นผม ทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย รวมทั้งไฟเบอร์ที่ได้จากอัลมอนด์ยังช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น